0 Comments
กายภาพบำบัดกระดูกคอเสื่อม

รู้จักการทำกายภาพบำบัดกระดูกคอเสื่อม และการดูแลตัวเองหลังทำกายภาพ

                กระดูกคอเสื่อม คือหนึ่งในอาการที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้เมื่ออายุเริ่มเข้าสู่วัยชรา ทำให้ผู้สูงอายุหลายท่านจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยวิธีทำกายภาพบำบัดกระดูกคอเสื่อม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมา ถึงแม้จะเป็นอาการที่เกิดจากความเสื่อมถอยของร่างกาย ไม่สามารถป้องกันได้ แต่ถ้าได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง รู้ตัวตั้งแต่มีอาการในระยะแรก ๆ และดูแลตัวเองได้อย่างถูกวิธี ก็จะช่วยให้อาการดีขึ้น ลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน และสามารถใช้ชีวิตประจำได้โดยที่อาการเจ็บป่วยกลับมารบกวนน้อยลง อาการแบบใดที่ต้องไปทำกายภาพบำบัดกระดูกคอเสื่อม                 อาการกระดูกคอเสื่อม มักจะปวดบริเวณคอซึ่งกินวงกว้างไปจนถึงไหล่และแขน เกิดจากการเสื่อมสภาพของหมอนรองกระดูกคอที่ทรุดลง ไม่สามารถรองรับกระดูกคอได้เหมือนเดิม การทำกายภาพบำบัดกระดูกคอเสื่อมจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อบริเวณคอและไหล่มากขึ้น สิ่งที่ทุกคนควรรู้คือปัจจัยเสี่ยงและอาการแรกเริ่มของโรคกระดูกคอเสื่อม ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการกระดูกคอเสื่อมเมื่ออายุมากขึ้น ได้แก่ ส่วนอาการที่บ่งบอกว่าควรไปทำกายภาพบำบัดกระดูกคอเสื่อมคือ อาการตั้งแต่ระดับกลางไปจนถึงระดับรุนแรง เนื่องจากอาการระยะแรก ๆ ยังใช้ยาเพื่อบรรเทาปวดและคลายกล้ามเนื้อในการรักษาได้ แต่หากเริ่มมีอาการปวดจนเริ่มมีอาการชาและอ่อนแรง ปวดจากคอร้าวไปจนถึงต้นแขน หรือบางครั้งอาจลงไปถึงมือ ควรเริ่มทำกายภาพบำบัดตั้งแต่เริ่มมีอาการ เพื่อไม่ให้เข้าสู่ระยะรุนแรง การดูแลตัวเองหลังทำกายภาพบำบัดกระดูกคอเสื่อม                 หลังจากทำกายภาพบำบัดกระดูกคอเสื่อมแล้ว เมื่อกลับมาดูแลตัวเองที่บ้าน ให้ทำตามคำแนะนำของแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้อาการกระดูกคอเสื่อมกลับมาเป็นซ้ำอีก นอกจากนี้ให้พิจารณาสภาพแวดล้อมที่คุณใช้ชีวิตอยู่ว่า ยังมีปัจจัยอะไรที่ทำให้เสี่ยงกับอาการกระดูกคอเสื่อมอีกหรือไม่ เช่น หมอนที่ใช้นอนเป็นประจำสูงเกินไปหรือไม่ มีงานอดิเรกที่ต้องใช้การก้มหน้าทำเป็นเวลานานหรือไม่ ออกกำลังกายน้อยเกินไปหรือไม่ เป็นต้น หากเป็นกิจกรรมหรือพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง ควรหลีกเลี่ยงและปรับพฤติกรรมให้เหมาะสมมากขึ้น ถึงแม้จะไม่ใช่ผู้สูงอายุ แต่ถ้าหากมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน จะทำให้กล้ามเนื้อถูกทำร้ายสะสม จนออกอาการเมื่ออายุมากขึ้นได้ […]

0 Comments
หูตึง

ทำความรู้จักกับอาการหูตึง พร้อมอาการและวิธีการรักษาให้หายขาด

บทความนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับอาการหูตึง พร้อมอาการและวิธีการรักษาให้หายขาดกัน ซึ่งการพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับอาการหูตึง พร้อมอาการและวิธีการรักษาให้หายขาดจะมีอะไรบ้างนั้น ต้องตามมาดูพร้อมๆ กันที่ด้านล่างของบทความนี้กันเลย

0 Comments
อุปกรณ์ที่ควรพกช่วยป้องกัน PM 2.5

พาช็อปของมันต้องพกเพื่อป้องกัน PM 2.5

ในช่วงนี้เรามักจะได้เห็นข่าวเกี่ยวกับ PM 2.5 กันมากขึ้น ซึ่งฝุ่น PM2.5 คือ ฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือมีขนาดประมาณ 1 ใน 25 ของเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผมมนุษย์ สาเหตุของการเกิดฝุ่นเหล่านี้ก็ล้วนมาจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การเผาไหม้ของเครื่องยนต์ การเผาไร่ การเผาป่า ซึ่งเจ้า PM 2.5  เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะสามารถเดินทางผ่านทางเดินหายใจสู่ปอดและกระแสเลือดได้ง่าย เพิ่มโอกาสของโรคหัวใจและโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ซึ่งเราก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่ออกไปข้างนอก วันนี้จึงได้นำลิสต์รายการอุปกรณ์ที่ควรพกช่วยป้องกัน PM 2.5 กันเลย หน้ากากอนามัยแบบมีกลิ่น ปกติแล้วเราก็สามารถใช้หน้ากากอนามัยที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกัน PM 2.5 ได้ แต่เพื่อความสดชื่นที่มากกว่า หน้ากากอนามันยแบบมีกลิ่นก็จะตอบโจทย์มากกว่าเดิม  ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นกุหลาบ กลิ่นลาเวนเดอร์ กลิ่นมะนาว พร้อมทั้งปกป้อง PM 2.5 ได้ถึง 99% เพราะมีแผ่นกรองถึง 4 ชั้น ด้วยเทคโนโลยี Micro Encapsulation ที่ปลดปล่อยกลิ่นหอมออกมาได้อย่างต่อเนื่อง และชั้นฟิล์มเคลือบที่ช่วยลดการสัมผัสระหว่างริมฝีปากและหน้ากาก รวมถึงช่วยลดการเปรอะเปื้อนของเครื่องสำอาง […]

0 Comments
ต้อกระจก

ต้อกระจก ปัญหาสายตาที่ไม่ควรมองข้าม

ต้อกระจกเป็นภาวะทางตาทั่วไปที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนนับล้านทั่วโลก เมื่อเราอายุมากขึ้น เลนส์ตาของเราจะขุ่นมัว ทำให้มองเห็นได้ยาก ต้อกระจกอาจเกิดจากปัจจัยอื่นๆ เช่น การบาดเจ็บ โรค หรือการใช้ยาบางชนิดในระยะยาว โชคดีที่ต้อกระจกสามารถรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการผ่าตัด

0 Comments
วิธีการควบคุม

วิธีการควบคุม ระงับ อารมณ์โกรธของคุณ

อารมณ์โกรธเเละหงุดหงิดนั้นทุกคนมีกันอยู่เเล้วเเน่นอน เราสังเกตไหมว่าทำไมบางคนถึงใจเย็นกับ ทุกเรื่องกับโลกใบนี้ เเต่เรากลับโกรธเเละหงุดหงิด การควบคุมอารมณ์ของตัวเราเองนั้นเป็นหนึ่งใน บุคลิกที่น่าสนใจเเละทำให้คุณดูดีขึ้นเเละคนอื่นอยากเข้าหามากขึ้นเพราะไม่มีใครที่ต้องการอยู่กับ คนที่มีอารมณ์ร้อนหรือโมโหตลอดเวลา วันนี้เราจึงอยากมาเเจกเคล็ดลับเผื่อตัวของคุณว่าจะระงับ หรือควบคุมความโกรธของคุณอย่างไร เริ่มต้นอย่างไร มาดูกันเลย 1. คิดก่อนพูด  ในช่วงเวลาที่อารมณ์มันร้อนแรงมันง่ายมากที่จะพูดบางสิ่งที่คุณจะเสียใจในภายหลัง ใช้เวลาสักครู่ เพื่อรวบรวมความคิดของคุณก่อนที่จะพูดอะไรและปล่อยให้คนอื่น ๆ  2. ออกกำลังกายบ้าง การออกกำลังกายสามารถช่วยลดความเครียดที่ทำให้คุณโกรธได้ ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณโกรธเพิ่มขึ้นให้ไป เดินหรือวิ่งเร็ว ๆ หรือใช้เวลาทำกิจกรรมทางกายอื่นๆที่สนุกสนาน 3.อย่าถือโทษโกรธเคือง การให้อภัยเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง หากคุณปล่อยให้ความโกรธและความรู้สึกเชิงลบอื่น ๆ มาบดบัง ความรู้สึกในเชิงบวกคุณอาจพบว่าตัวเองถูกกลืนหายไปกับความขมขื่นหรือความรู้สึกของความอยุติ ธรรม แต่ถ้าคุณสามารถให้อภัยคนที่ทำให้คุณโกรธคุณทั้งคู่อาจเรียนรู้จากสถานการณ์และกระชับ ความสัมพันธ์ของคุณ 4. ใช้อารมณ์ขันเพื่อปลดปล่อยความตึงเครียด การทำอารมณ์ขันสามารถช่วยกระจายความตึงเครียดได้ ใช้อารมณ์ขันเพื่อช่วยให้คุณเผชิญกับสิ่ง ที่ทำให้คุณโกรธเพราะว่าหากคุณอารมณ์ร้อนเเละอีกฝ่ายก็ร้อยก็จะมีเเต่พังกับพังเเละจะยิ่งทำให้โมโห กันไปใหญ่ปัญหาเดิมทีที่ไม่ได้ใหญ๋โตอาจจะหนักขึ้นได้ 5. ฝึกทักษะการผ่อนคลาย เมื่ออารมณ์ของคุณพลุ่งพล่านให้ใช้ทักษะการผ่อนคลายในการทำงาน ฝึกหายใจเข้าลึก ๆ จินตนาการถึงฉากที่ผ่อนคลายหรือพูดซ้ำคำหรือวลีที่สงบเงียบเช่น Take it easy นอกจากนี้คุณยัง  อาจจะทำวิธีอื่นได้ เช่น ฟังเพลงเขียน บันทึกประจำวัน โยคะ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการผ่อนคลาย […]

0 Comments
ดนตรีบำบัด

ดนตรีสามารถบำบัดทางจิตใจของคุณได้

ดนตรีบำบัดเป็นที่แพร่หลายในเทพนิยายกรีกปรัชญาและวัฒนธรรมอเมริกันพื้นเมืองในประวัติศาสตร์ ของเราดนตรีบำบัดเป็นที่โดดเด่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสงครามโลกครั้งที่สองในช่วงสง ครามโดยในชุมชนได้เล่นให้กับทหารผ่านศึกและผู้บาดเจ็บในโรงพยาบาลทั้งผู้ป่วยและพยาบาลสังเกต เห็นความแตกต่างของอารมณ์และได้รับการตอบสนองทางอารมณ์ในเชิงบวกต่อดนตรีสังเกตได้ว่ารู้สึกดีขึ้นในมุมมองของพวกเขาและรู้สึกเจ็บปวดน้อยลงดนตรีได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจนแพทย์เริ่มจ้างนักดนตรีมาเล่นให้กับทหารปัจจุบันดนตรีบำบัดเป็นที่ชื่นชอบของเด็กวัยรุ่นและผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในโรงพยาบาลหนึ่งในแง่มุมที่ยอดเยี่ยมของดนตรีบำบัดคือการบำบัดเป็นรายบุคคลจากผู้ป่วยถึงผู้ป่วยตั้งเเต่อดีตจนถึงปัจจุบันดนตรีบำบัดเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับเด็กและวัยรุ่นในโรงพยาบาลที่ต้องต่อสู้กับความเจ็บป่วย ดนตรีใช้เพื่อลดความเจ็บปวดของผู้ป่วยให้พวกเขาสามารถแสดง ออกโดยไม่ใช้คำพูดและผ่อนคลาย ผ่านการร้องเพลงเล่นเครื่องดนตรีเขียนเพลงหรือฟังเพลงบทความ นี้เราอยากมาเเชร์ว่าดนตรีนั้นช่วยบำบัดสุขภาพจิตเเละสุขภาพของเราได้จริงอย่างไรบ้างมาดูกันเลย สมอง ดนตรีที่มีจังหวะที่หนักแน่นสามารถกระตุ้นคลื่นสมองให้สั่นพ้องกับจังหวะดนตรีได้โดยการเต้นที่เร็วขึ้นจะทำให้มีสมาธิมากขึ้นและมีความคิดที่ตื่นตัวมากขึ้นและจังหวะที่ช้าลงจะทำให้เกิดความสงบและมี สมาธินอกจากนี้การวิจัยพบว่าการเปลี่ยนแปลงของระดับการทำงานของคลื่นสมองที่ดนตรีสามารถนำมาใช้ได้ยังช่วยให้สมองสามารถเปลี่ยนความเร็วได้ง่ายขึ้นด้วยตัวมันเองตามต้องการซึ่งหมายความว่า ดนตรีสามารถก่อให้เกิดประโยชน์ที่ยั่งยืนต่อสภาพจิตใจของคุณได้ อัตราการเต้นของหัวใจ ด้วยการเปลี่ยนแปลงของคลื่นสมองทำให้การทำงานอื่นๆของร่างกายเปลี่ยนแปลงไป อวัยวะที่อยู่ ภายใต้ระบบประสาทอัตโนมัติ เช่น การหายใจและอัตราการเต้นของหัวใจ สามารถเปลี่ยนแปลง ได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงที่ดนตรีนำมาซึ่งทำให้การหายใจช้าลงอัตราการเต้นของหัวใจช้าลงและการ กระตุ้นการตอบสนองต่อการผ่อนคลาย เป็นต้น ดนตรีสามารถช่วยต่อต้านหรือป้องกันผลกระทบ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายจากความเครียดเรื้อรังได้ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งเสริมการพักผ่อนเท่านั้นแต่ยังช่วย ให้สุขภาพแข็งแรงอีกด้วย  สภาวะจิตใจเเละอารมณ์ นอกจากนี้ดนตรียังสามารถใช้เพื่อทำให้จิตใจเป็นบวกมากขึ้นช่วยรักษาภาวะซึมเศร้าและความวิตก  กังวลได้อีกด้วยเเละสามารถช่วยป้องกันการตอบสนองต่อความเครียดกับร่างกายและยังช่วยให้ มีความคิดสร้างสรรค์และการมองโลกในแง่ดีอีกด้วย ดีต่อสุขภาพเเละโรคร้าย นอกจากนี้ยังพบว่าดนตรีให้ประโยชน์อื่นๆอีกมากมายเช่นการลดความดันโลหิตซึ่งสามารถลดความ เสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองและปัญหาสุขภาพอื่นๆ เพิ่มภูมิคุ้มกันลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ และอื่นๆ ประโยชน์ทางกายภาพ ดนตรีบำบัดช่วยให้เด็กป่วยผ่อนคลายและรู้สึกเจ็บปวดน้อยลง สำหรับเด็กและวัยรุ่นที่เป็น มะเร็งและโรคอื่นๆการฟังและเล่นดนตรีตลอดจนการแต่งเพลงและการร้องเพลงความเจ็บปวด ของผู้ป่วยจะลดลงเเละดนตรีบำบัดสามารถช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและลดความเครียดและความ วิตกกังวลของผู้ป่วย ดนตรีสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อการผ่อนคลายเพื่อเพิ่มพลังงานเมื่อรู้สึกเหนื่อยล้าสำหรับ การจัดการกับความเครียดทางอารมณ์และในรูปแบบอื่นๆ พวกเราส่วนใหญ่รู้จากประสบการณ์ว่าดน ตรีสามารถละลายความเครียดเเละยังทำให้เรามีแรงบันดาลใจในการออกกำลังกายและนำเรากลับ ไปสู่ความคิดเชิงบวกหรือความสุขซึ่งอาจเป็นตัวกระตุ้นความสุขและคลายความเครียดนอกจากนี้ สำหรับคนที่เป็นนักดนตรีบำบัดที่ได้รับการรับรองมักจะเป็นนักดนตรีที่ประสบความสำเร็จและมีความรู้อย่าง ลึกซึ้งว่าดนตรีสามารถกระตุ้นการตอบสนองทางอารมณ์ เพื่อผ่อนคลายหรือกระตุ้นผู้คนหรือ ช่วยเยียวยาได้อย่างไรพวกเขาผสมผสานความรู้นี้เข้ากับความคุ้นเคยกับรูปแบบดนตรีที่หลากหลาย  เพื่อค้นหารูปแบบเฉพาะที่จะช่วยให้คุณได้รับการบำบัดทางกายภาพได้อย่างเต็มที่